ยีสต์ อาจสืบพันธุ์โดยวิธีสร้างสปอร์ แตกหน่อ หรือแบ่งตัว ส่วนใหญ่เป็นการแตกหน่อ
การแตกหน่อ จะมีการส่งท่อออกจากนิวเคลียร์แวคิวโอล ซึ่งใกล้กับนิวเคลียสของเซลล์พ่อแม่เดิม ชี้ออกไปที่ผนังเซลล์ที่ใกล้กับแวคิวโอลมากที่สุด ที่ผิวนอกของเซลล์จะมีส่วนยื่นออกไปเป็นตุ่ม ซึ่งเกิดจากผนังเซลล์ตรงนั้นอ่อนแอลง ท่อนั้นจะผ่านเข้าสู่ส่วนที่ยื่นซึ่งจะขยายใหญ่ออก และบรรจุสารของนิวเคลียสและไซโทพลาซึมจากเซลล์พ่อแม่เดิม ผนังเซลล์ของหน่อ (bud) จะมีสารที่สร้างขึ้นใหม่ เมื่อหน่อใหญ่เกือบเท่าเซลล์พ่อแม่แล้ว องค์ประกอบของนิวเคลียสในเซลล์ทั้งสองจะจัดเรียงตัวใหม่เพื่อให้เซนโตโซมของแต่ละเซลล์อยู่ไกลจากจุดที่เซลล์ติดกันอยู่ หลังจากการแบ่งนิวเคลียสสิ้นสุดลงจะมีผนังกั้นเกิดขึ้น เพื่อแยกเซลล์พ่อแม่เดิมกับหน่อใหม่ออกจากกัน ถึงแม้ว่าหน่ออาจยังติดกับเซลล์เดิม และมีการสร้างหน่อใหม่อีกก็ตาม ในช่วงชีวิตยีสต์ที่เจริญเต็มที่อาจแตกหน่อได้โดยเฉลี่ย 24 เซลล์ การแตกหน่อจะเกิดขึ้นที่ตำแหน่งต่างๆบนผิวเซลล์ และมีรอยการแตกหน่อ (birth scar หรือ bud scar) ติดอยู่กับเซลล์แม่ซึ่งเป็นผลจากดารแบ่งเซลล์โดยการแตกหน่อ
การแบ่งตัวจากหนึ่งเป็นสอง เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ซึ่งคล้ายกับการสืบพันธุ์ของแบคทีเรีย โดยเซลล์ยีสต์จะบวมขึ้นหรือยืดยาวออก เกิดการแบ่งนิวเคลียส และแบ่งเป็นสองเซลล์ เช่น Schizosaccharomyces สืบพันธุ์โดยการแบ่งตัวตามขวาง ในขณะที่เกิดการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว เซลล์อาจจะแบ่งโดยไม่แยกออกจากกัน ทำให้เซลล์ติดต่อกันเป็นสายโซ่ยาว
การสืบพันธุ์อีกวิธีหนึ่ง คือ การแตกหน่อและแบ่งตัว (bud-fission) ซึ่งมีทั้งวิธีแตกหน่อและแบ่งตัวจากหนึ่งเป็นสองรวมกัน พบใน Saccharomycodes และ Nadsonia หน่อจะเกิดขึ้นที่ขั้วหนึ่งของเซลล์ แล้วมีผนังกั้นระหว่างเซลล์พ่อแม่กับเซลล์ลูก
การสร้างสปอร์ โดยทั่วไปหมายถึงการสร้างสปอร์เพศ เช่น แอสโคสปอร์ หรือ เบสิดิโอสปอร์ นิวเคลียสของสปอร์เหล่านี้เกิดจากการแบ่งตัวแบบไมโอซิส ส่วนการสร้างสปอร์แบบไม่อาศัยเพศ เช่น โคนิเดีย อาร์โธรโคนิเดีย บลาสโตโคนิเดีย บัลลิสโตสปอร์และแคลมิโดโคนิเดีย มีนิวเคลียสที่เกิดจากการแบ่งแบบไมโทซิส

ที่มา:http://www.thaieditorial.com